วัดบ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
เหรียญหยดน้ำ หลวงพ่อใหญ่ องค์ตื้อ สวยๆ สำหรับท่านกำลังมองหาเหรียญ หลวงพ่อใหญ่ องค์ตื้อ ไว้บูชา
ประวัติ ความเป็นมา หลวงพ่อใหญ่ องค์ตื้อ ปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
"พระที่่เปิดให้บูชา ตรงตามรูป ทุกประการ การันตี มั่นใจได้เลย"
พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดพระโต ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระโต บ้านปากแซง หมู่ที่ 3 ตำบลพะลาน อำเภอเขมราฐ(ปัจจุบันขึ้นกับอำเภอนาตาล) จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยอิฐผสมปูนขาว ขนาดหน้าตักกว้าง 2.90 เมตร สูง 4.36 เมตร มีอายุเก่าแก่ และเป็นที่เคารพนับถือ ของประชาชนไทยและลาว เนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้เก่าแก่มากและไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ผู้บันทึกได้เรียบเรียงตามคำบอกเล่าของคนแก่ ซึ่งได้เล่าสืบทอดกันมาดังข้อความต่อไปนี้
มีกษัตริย์สมัยขอมพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้เสด็จล่องเรือลงมาตามลำแม่น้ำโขงในฤดูฝน พอถึง บ้านปากแซง ก็ค่ำลง จึงได้หยุดประทับแรม 1 คืน วันรุ่งขึ้น พระองค์ได้เสด็จขึ้นไปยังหมู่บ้าน และได้พบกับเจ้ากวนของหมู่บ้านในสมัยนั้น พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้ตรัสถามถึงประวัติของหมู่บ้าน เจ้ากวนได้เล่าให้ฟังว่า บ้านนี้มีหาดสวยงามกว้างใหญ่ ในฤดูแล้ง หาดทรายจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ และหาดทรายแห่งนี้มีสิ่งอัศจรรย์อยู่คือ ถ้าปีใดหาดทรายโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำระหว่างหมู่บ้าน ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อพระองค์ได้ทราบก็เกิดศรัทธาในใจว่า สักวันหนึ่งจะต้องย้อนกลับมาสร้างหมู่บ้านนี้ให้เป็นเมือง
ในราว พ.ศ. 1154 พระองค์ ก็ได้เสด็จมา พร้อมด้วยข้าทาสบริวารเป็นจำนวนมาก เมื่อเสด็จมาถึง พระองค์จึงได้มอบให้เจ้าแสง (คงจะเป็นนายชั้นผู้ใหญ่) เป็นคนควบคุมการก่อสร้างพร้อมกันนี้ก็ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่ง ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 1180 และขนานนามว่า พระอินทร์ใส่โฉม (ต่อมาเรียก พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) เมื่อเจ้าแสงก็ถึงกรรมลง ชาวเมืองได้สร้างหอหลักเมืองขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และขนานนามว่า หอแสง ต่อมาวัดแห่งนี้ก็ขาดคนบูรณะ และกลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ควาญช้างในหมู่บ้านนี้ ได้ไปพบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว และได้บอกบุญชาวบ้านร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดพระโต
พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เดิมเรียกชื่อว่าพระเจ้าอินทร์ใส่โสม ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระโต บ้านปากแซง กิ่งอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ปางมารสะดุ้ง หรือมารวิชัย ลักษณะงดงามมาก สร้างด้วยอิฐ ขนาดหน้าตักกว้าง 2.90 เมตร สูง 4.365 เมตร ประดิษฐานแท่นบูชา สูง 1.19 เมตร ที่พระพุทธรูปที่เก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนคนไทย และประชาชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้บูชาตลอดมา จนกลายเป็นประเพณีที่สำคัญในการนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ระหว่างวันขึ้น 9 ค่ำถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี และจะมีประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งไทย-ลาว ได้มานมัสการจำนวนมาก
จากหลักฐานการบูรณะ วัดพระโต ในปี พ.ศ.2461 พระครูกุ พร้อมชาวบ้านได้ร่วมกันก่อสร้างวิหารโดยว่าจ้างช่างชาวญวนใช้เวบาสร้าง 3 ปี และจารึกไว้ที่วิหารว่า ?ข้าพเจ้าพระครูทองกุศกร สมภาควัดกลางเขมราฐ มีท่านพระครูกุ เป็นประธานพร้อมด้วยข้าพเจ้าทั้งหลายทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านได้พร้อมใจกันบริจาคทรัพย์สร้างวิหารพระเจ้าใหญ่ปากแซง ใน 5 หมู่บ้าน คือ บ้านปากแซง บ้านนาทราย บ้านพะลาน บ้านบก บ้านทุ่งเกลี้ยง ได้จ้างคนอานาม (เวียดนาม) เป็นเงิน 700 บาท สร้างเมื่อ พ.ศ. 2463 ถึง พ.ศ. 2468 แล้วเสร็จ
สำหรับวัดพระโตแห่งนี้ มีความสำคัญที่ประชาชนคนไทยและชาวจังหวัดอุบลราชธานี มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นมรดกล้ำค่าทางด้านศาสนา เป็นศูนย์รวมดวงใจชาวพุทธทั้งไทย ? ลาว ต่างเลื่อมศรัทธากราบไหว้บูชา และด้วยพระบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของ ?พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ? จึงเป็นสายสัมพันธ์เชื่อมโยงไทย - ลาวให้มีความผูกพันตลอดมา
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563